อะมานะฮ์
หนึ่งในคุณสมบัติของมุสลิมที่แท้จริง
อะมานะฮ์
คืออะไร ?
อะมานะฮ์ คือ
การที่บุคคลหนึ่งต้องประพฤติปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบให้สมบูรณ์และดีที่สุด
มีความบริสุทธิ์ใน ซื่อสัตย์ สุจริต
รับผิดชอบต่อสิทธิหน้าที่ที่พึงมีต่อเพื่อนมนุษย์ให้ครบถ้วน
ความสำคัญของอะมานะฮ์
อิสลามให้ความสำคัญต่อการรักษาสิทธิต่าง ๆ ไว้อย่างครบถ้วน บริบูรณ์
ไม่ว่าสิทธิที่พึงมีต่ออัลเลาะฮ์ ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และต่อภาระงานต่างๆ
ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งมวลมุสลิมทุกคนจักต้องมีความรู้สึกรับผิดชอบ
ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่การงานนั้นๆ
อะมานะฮ
ในทัศนะของอิสลามนั้น มีความผูกพันกับภาระหน้าที่
ที่เขาจะถูกสอบสวนต่อหน้าพระพักตร์ของอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ดังฮาดิษบทหนึ่งที่กล่าวว่า
:
พวกท่านทุกคนล้วนเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ
และต้องถูกสอบสวนเกี่ยวกับหน้าที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของตน ดังนั้น อีหม่าม (ผู้นำ)
เป็นผู้ที่มีหน้าที่และถูกสอบสวนเกี่ยวกับหน้าที่ของเขา
ชายผู้หนึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในครอบครัวของเขา
และต้องถูกสอบสวนเกี่ยวกับหน้าที่ของเขา และสตรีนั้น
นางมีหน้าที่รับผิดชอบในบ้านของสามี และต้องถูกสอบสวนเกี่ยวกับหน้าที่ของนาง คนรับใช้มีหน้าที่รับผิดชอบในทรัพย์สินของเจ้านายและต้องถูกสอบสวนเกี่ยวกับหน้าที่รับผิดชอบ
ในทรัพย์สินของเจ้านาย และต้องถูกสอบสวนเกี่ยวกับหน้าที่นั้น และท่านศาสดา
(ซ.ล.) ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า
และชายคนหนึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในทรัพย์สินของบิดาและต้องถูกสอบสวนเกี่ยวกับหน้าที่ของเขา
ดังนั้นพวกเจ้าทั้งหลายล้วนมีหน้าที่ และพวกเจ้าทั้งหลายล้วนต้องรับผิดชอบ
เกี่ยวกับหน้าที่ของตนเอง (บุคอรี)
อะมานะฮ์กฎบัตรที่มีผลต่อประชาคมโลก
อันประชาคมพลโลกที่ไร้ซึ่งการไว้วางใจ (อะมานะฮ์) ขาดความรับผิดชอบคือ
ประชาชาติที่ไร้กฎระเบียบ และละเลยต่อหน้าที่ มีความเห็นแก่ตัว
เพิกเฉยต่อภาระหน้าที่ที่จะช่วยเหลือเกื้อกูล เพื่อประโยชน์ส่วนรวม
เป็นบ่อเกิดแก่ผู้มีอำนาจ กดขี่ข่มเหงต่อผู้ที่ด้อยโอกาส ไร้ความสามารถ
ดังมีฮาดิษบทหนึ่งที่บ่งชี้ถึงสิ่งดังกล่าวอันเป็นรหัสหนึ่งแห่งวันสิ้นโลกว่า :
เล่าจากอบีฮุรอยเราะฮ์(ร.ด.) ว่า : ได้มี ชายคนหนึ่ง ได้ถามท่านศาสดา
(ซ.ล.) ว่า เมื่อใดเล่าวันสิ้นโลกจะอุบัติขึ้น? ท่านศาสดา (ซ.ล.) ตอบว่า :
เมื่ออะมานะฮ์ถูกเพิกเฉย
ท่านจงรอคอยวันนั้นเถิด ? ชายผู้นั้นได้ถามต่อไปอีกว่า : อย่างไรเล่าที่อะมานะฮ์ถูกละเลยเพิกเฉย ท่านศาสดา(ซ.ล.) ตอบว่า :
เมื่อเรื่องหนึ่งถูกมอบหมายไปยังผู้ที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นท่านจงรอวันนั้นเถิด (บุคอรี)
อะมานะฮ์ดุจดั่งของฝากชั่วคราว
สิ่งของต่างๆ ที่มนุษย์ดูแลนั้น มันเป็นขอฝากชั่วคราวชั่วขณะหนึ่ง ต่อมาสิ่งนั้นก็ถูกส่งคืนเจ้าของ ขณะที่เขาต้องการ สิ่งของชิ้นนี้ คือ “อะมานะฮ์” ที่จะถูกสอบสวน ดังเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยบรมศาสดา (ซ.ล.) ว่า
ท่านได้แต่งตั้งอาลี บุตรอบีตอลิบ
เป็นตัวแทนท่านในขณะที่ท่านจะอพยพไปนครมาดีนะฮ์ เพื่อมอบสิ่งของที่ฝากไว้กับท่านคืนแก่พวกมุชรีกีน.
ท่านอับดุลเลาะฮ์ บุตรมัสอู๊ด (ร.ด.) ได้เล่าว่า : การพลีชีพในหนทางของอัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) จะลบล้างบาปทั้งหมด ยกเว้น อามานะฮฺ ในวันกียามะฮฺ
บ่าวจะถูกนำมา แล้วมีผู้กล่าวกับเขาว่า
ท่านจงชดใช้อะมานะฮ์ของท่านเถิด
บ่าวคนนั้นก็กล่าวตอบว่า “โอ้อัลเลาะฮ์ ฉันจะชดใช้อย่างไรเล่า
ในเมื่อฉันได้จากโลกดุนยามาแล้ว” มีผู้กล่าวว่า
จะนำเขาไปสู่ขุมนรกญะฮันนัม
โดยที่อามานะฮฺ ถูกแปลงรูปให้อยู่ในลักษณะที่เหมือนกับวันที่เขารับฝาก
เมื่อเขาเห็นเขาก็รู้จักมัน ต่อมา อิบนูมัสอู๊ด ได้กล่าวว่า : ละหมาด คือ อะมานะฮ์อาบน้ำละหมาด คือ
อะมานะฮ์ทุกสิ่งทุกอย่างถูกนับว่าเป็น อะมานะฮ์ทั้งหมด อะมานะฮ์ที่หนักยิ่งคือของฝาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น